วันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

[OS] คืนสุดท้าย [Kris x Luhan]

คืนสุดท้าย
คริส x ลู่หาน















คืนสุดท้ายที่จะได้อยู่ด้วยกัน ช่วยทำให้มันเป็นความทรงจำที่ดีดีกว่า















“ถ้านายไม่ไปล่ะ อะไรจะเกิดขึ้น?” เสียงทุ้มหวานเอ่ยถามคนตัวสูงที่กำลังปลดเนคไทออกแล้ววางมันไว้บนพนักเก้าอี้ตรงโต๊ะเครื่องแป้งของโรงแรม พรุ่งนี้เขามีไฟลท์บินแต่เช้าตรู่ โรงแรมใกล้ๆสนามบินจึงเป็นทางเลือกที่เขาคิดว่าดีที่สุด



“เราคุยกันแล้วไม่ใช่หรือยังไง?”



“ก็ใช่ แต่อยากงี่เง่าไม่อยากให้นายไปนี่” คนที่นั่งอยู่บนเตียงเลื่อนตัวที่เคยอยู่ตรงกลางเตียงคู่ขนาดคิงไซส์มาอยู่ปลายเตียงแทน ขายาวหย่อนมายันบนพื้นแล้วจ้องหน้าคนที่ยืนพิงโต๊ะกอดอกมองเขาอยู่เช่นกัน



“คุณหนูครับ...”



“หานหาน ให้นายเรียกหานหานไม่ใช่คุณหนู!” คนที่มีศักดิ์สูงกว่า(ตามหน้าที่)นั่งหน้างอเมื่ออีกคนเลือกใช้คำแทนชื่อที่ฟังแล้วดูห่างเหิน ทั้งๆที่จริงแล้วความสัมพันธ์ของเขาสองคนมากกว่าเจ้านายลูกน้องไปแล้ว



“ก็คุณหนูเริ่มดื้อแล้วนี่ครับ”



“แต่ตอนนี้อยู่ด้วยกันแค่สองคน” เขาเอ่ยย้ำอีกครั้ง จนอีกคนต้องยอมถอนหายใจออกมาเบาๆ ขายาวเดินเข้าไปหาอีกคนแล้วหยุดอยู่ตรงหน้าก้มลงมองใบหน้าหวานที่เงยขึ้นเพื่อมาสบตาเขาเช่นกัน



“หานหานก็รู้นี่ว่าถ้าผมไม่ไป นายท่านจะทำอย่างไรกับผมน่ะ? เรามีสิทธิ์ที่จะไม่เจอกันตลอดชีวิตเลยนะครับ” เพราะว่ารักกับเจ้านายตัวเอง คนที่เป็นแค่บอดี้การ์ดดันไปหลงรักลูกชายของผู้มีอิทธิพลเข้า มิหนำซ้ำยังได้ทำการล่วงเกินลูกชายท่านอีก บทลงโทษก็เลยถูกสั่งให้อยู่ห่างกันแบบไม่มีกำหนด



อู๋อี้ฟานได้รับคำสั่งให้ย้ายไปดูแลอาชายของลู่หาน ที่มีธุรกิจอยู่อีกฟากฝั่งโลกอย่างแคนาดา จริงๆเขาจะโดนไล่ออกเสียด้วยซ้ำแต่ว่าลู่หาน(ลูกชายหน้าหวานที่เขาแอบได้เสียกันมาเป็นเวลาสามเดือน)ได้ไปขอร้องพ่อของตัวเองว่าห้ามไล่เขาออก



เขาก็เลยต้องไปแคนาดาให้เร็วก็เท่านั้น แม้มันจะรู้สึกปวดใจแต่มันก็ยังดีกว่าโดนลูกปืนเข้าน่ะนะ



“ไม่อยากให้ไปเลย” เพราะระยะห่างที่แคบลง ลู่หานก็เลยรวบกอดเข้าที่เอวอีกคน แล้วซบหน้าลงที่ท้องแกร่งพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงช้าๆ มือใหญ่ยกมาลูบผมอีกคนเบาๆก่อนจะเลื่อนไปปลดแขนอีกคนออกแล้วก็เปลี่ยนมาเป็นยืนเข่าให้ความสูงอยู่ในระดับเท่ากันแทน



“ผมเองก็ไม่อยากไป แต่มันก็ช่วยไม่ได้ นายท่านคงอยากให้หานหานได้อยู่กับคนที่ดี ที่ดีกว่าผมที่เหมาะกับหานหานมากกว่าผม”



“ไม่มีใครเหมาะกับฉันเท่านายแล้ว” มือเล็กยกมาประกบที่ใบหน้าหล่อ “พ่อน่ะไม่เข้าใจวัยรุ่นอย่างเราเลย เราหนีไปด้วยกันนะอี้ฟาน ให้โรงแรมจองตั๋วให้เลยก็ได้ ไปไหนดี? ย้ายไปอังกฤษแทนดีมั้ย? เอ๊ะ! ไม่ดีกว่า อยู่ในจีนนี่แหละ เพราะที่ที่ปลอดภัยที่สุดคือที่ที่อันตรายที่สุด นายอยากไปเมืองไหน?”



“หานหาน...”



“อะไรเล่า... พูดแค่นี้ทำไมต้องทำเสียงดุ ตาดุใส่กันด้วยเล่า! นายไม่อยากอยู่กับฉันอย่างนั้นเหรอ?”



“ใครบอกว่าไม่อยากล่ะ อยากอยู่ด้วยกันตลอดนั่นแหละ แต่เราไม่ควรทำอย่างนั้นน่ะ โชคดีแค่ไหนแล้วครับที่นายท่านไม่ยิงผมทิ้งน่ะ”



“ลองยิงนายดูสิ ฉันจะยิงตัวตายตามเลยจริงๆด้วย”



“ไม่เอาน่าหานหาน อย่าพูดอะไรแบบนั้น” อี้ฟานเอ่ยบอกด้วยสีหน้าติดจะไม่พอใจกับคำพูดของอีกคน ก่อนจะเคลื่อนหน้าไปจุมพิตเบาๆที่ริมฝีปากอิ่มนั่น “ไม่ต้องตายตามผมไปหรอก เพราะผมไม่รู้ว่าชีวิตหลังความตายเราจะได้อยู่ด้วยจริงๆหรือเปล่า แต่ผมมั่นใจว่าถ้าผมตายแค่คนเดียว ยังไงผมก็ต้องอยู่ในใจหานหานแน่ๆอยู่แล้วล่ะ”



“นายก็ไม่ต้องมาพูดเรื่องตายเหมือนกันน่า ถ้าตราบใดที่เรายังไม่ได้อยู่ด้วยกันอย่าตายเด็ดขาดนะ!” ใบหน้าหวานพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังผิดกับอีกคนที่ยังคงมีรอยยิ้มจากคำพูดเมื่อครู่ แล้วปากอิ่มก็เคลื่อนไปจูบที่ริมฝีปากอีกคนบ้าง “สัญญานะ ว่าต้องรอจนกว่าจะถึงวันนั้นนะ”



“สัญญาอยู่แล้วครับ” อี้ฟานยิ้มรับคำสัญญานั้น เขาจะทำทุกวิถีทางให้พ่อของคนตรงหน้าของเขายอมรับเขาให้ได้ ว่าเขานั้นพร้อมที่จะดูแลลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของท่านได้เป็นอย่างดี “ไปอาบน้ำได้แล้วครับ”



“โอเค... วันนี้ยอมทำตามคำสั่งนายเลยนะเนี่ย” อี้ฟานหัวเราะออกมาน้อยๆพลางลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เพราะด้วยนิสัยของลู่หานเวลาเขาเอ่ยปากบอกอะไรมักจะเถียงข้างๆคูๆกลับมาเสมอ ไม่ยอมทำตามกันง่ายๆหรอก



ร่างที่เล็กกว่าเดินเข้าห้องน้ำไปพร้อมปิดประตู อี้ฟานที่มองตามก็เลยย้ายสายตาไปมองหารีโมทแทน เขาถอดเสื้อผ้าออกแล้วหยิบเอาผ้าเช็ดตัวมาพันท่อนล่างไว้แทนเตรียมตัวอาบน้ำต่อจากคุณหนูลู่หาน



แต่คิดไปคิดมา ไหนๆนายท่านก็อุตส่าห์อนุญาตให้เขาอยู่ด้วยกันเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว เขาควรจะใช้ครั้งสุดท้ายนี้ให้คุ้มที่สุดสินะ



คิดได้ดังนั้นก็ตัดสินใจที่จะเข้าไปอาบน้ำกับอีกคนด้วย และแน่นอนว่ามันไม่จบลงแค่การอาบน้ำหรอก



“อยากได้คนช่วยอาบน้ำมั้ย?” ฉากกั้นส่วนที่เป็นฝักบัวถูกอี้ฟานเปิดออก ลู่หานที่เปลือยหมดทั้งตัวหันหลังกลับมาดูอย่างตกใจ ก่อนจะเอื้อมมือไปปิดน้ำ



“อะไรของนายเนี่ย?”



“อยากช่วยอาบน้ำ แล้วก็อยากทำอย่างอื่นด้วย”



“หน้าหื่นมาเลยยยยย คิดจะทำอะไรเนี่ยยยย?” ลู่หานเอ่ยว่าแต่ไม่จริงจังนัก เพราะเขาเองก็เต็มใจเหมือนกันหากจะทำกิจกรรมอื่นนอกจากอาบน้ำ



อี้ฟานเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะกอดอีกคนเข้ามาใกล้แล้วเริ่มต้นบทรักด้วยการจูบที่ยังไม่ร้อนแรง พวกเขายังมีเวลาที่จะเพิ่มเลเวลให้กับมัน และยิ่งใช้เวลากับบทจูบมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งร้อนแรงมากขึ้นเท่านั้น



“อื้ม...” อี้ฟานละริมฝีปากออกมาแล้วเปลี่ยนไปยังสองแก้มใสแทน เรื่อยไปจนถึงใบหูก็กระซิบบอกรักอีกคนหวานจับใจ



“รักมาก รักจนรักใครไม่ได้อีกแล้ว” ลู่หานเผยรอยยิ้มออกมาให้อีกคนได้เห็น สองแขนที่โอบรอบคออีกคนเอาไว้ยิ่งกอดให้แน่นมากขึ้นไปอีก ซึ่งมันก็ทำให้เขาสองคนใกล้กันมากกว่าเดิมอีก ออกแรงเพียงนิดใบหน้าหล่อก็ยอมโน้มลงมาใกล้ๆ



“อย่าเลิกรักกันนะ” พูดจบก็ยิ้มแล้วเปลี่ยนองศาใบหน้าให้ซุกอยู่แถวๆซอกคอแกร่งที่ยังคงมีกลิ่นน้ำหอมประจำตัวของอีกคนอยู่ ออกแรงขบเม้มให้เกิดรอยก่อนจะถอยออกมาดูผลงาน ก็ใช้ได้ นี่พยายามทำให้ปกเสื้อปิดได้นะ พรุ่งนี้จะได้ไม่เป็นที่สังเกตของผู้คน



“นี่กัดกันหรือทำรอยคิสมาร์ค?”



“คิสมาร์คสิ ออกมาดีด้วยเหอะ” ใบหน้าน่ารักเอ่ยเถียงแล้วกลับไปทำต่อ ริมฝีปากอิ่มพรมจูบไล่ลงมาถึงช่วงอก ไม่พลาดที่จะเข้าไปหยอกล้อกับติ่งไตสีเข้มจนคนตัวสูงต้องเผลอครางออกมา



“อา...” ลิ้นเล็กเล่นสนุกลากไล้วนรอบๆจนอีกคนต้องเอ่ยปรามให้เลิกหยอกล้อได้แล้ว ลู่หานผละออกมาพร้อมแลบลิ้นให้อีกคนอย่างยั่วยวน มือเล็กก็ปลดผ้าเช็ดตัวที่ปกปิดส่วนล่างของอีกคนออกแล้วโยนมันออกไปให้พ้นทาง



อี้ฟานยิ้มกริ่มแล้วค่อยๆดันอีกคนให้ติดผนัง นิ้วเรียวยาวไล้โครงหน้าหวานอย่างหลงใหลแล้วก้มลงประทับจูบอีกครั้ง มือใหญ่ก็เลื่อนไปหลังท้ายทอย สอดนิ้วไปในเส้นผมเล็กที่เปียกน้ำแล้วออกแรงนวดเบาๆพร้อมกับจูบไปด้วย



แขนเล็กโอบรอบคออีกครั้ง ครั้นพออีกคนหันไปชิมส่วนอื่นของใบหน้าก็เบือนหน้าไปซ้ายทีขวาทีเพื่อให้อีกคนเชยชมได้ถนัดๆ



อกบางก็เป็นที่ที่โปรดปรานของอี้ฟานด้วยเช่นกัน เขาไม่ลืมที่จะชื่นชมมันด้วยจมูกโด่งและริมฝีปากของเขาแน่นอน ลู่หานเปล่งเสียงครางออกมาอย่างพึงพอใจ



“อือ...อา...” เสียงเริ่มติดขัดเมื่ออี้ฟานไล่ลงต่ำเรื่อยๆ จนถึงตรงนั้นแหละ ความต้องการของเขาจึงเพิ่มมากขึ้นและอยากจะปลดปล่อยมันเสียเดี๋ยวนั้น



อี้ฟานจับอีกคนพลิกตัวช้าๆ ลำแขนเรียวทั้งสองจึงเท้าผนังเพื่อเป็นหลักยึดให้กับตัวเอง อี้ฟานกอดเอวบางแล้วเคลื่อนเข้ามาใกล้ จนร่างเล็กรู้สึกถึงความมต้องการของอีกคนที่ดุนช่วงสะโพกของเขาอยู่



“วันนี้ไม่ใช้ถุงยางนะครับ”



“อ...อื้อ... เข้ามาเถอะ ฉันพร้อมแล้ว...” ลู่หานหันมาตอบส่วนอี้ฟานก็ยิ้มหัวเราะออกมาเบาๆ เขาเตรียมความพร้อมให้อีกคนก่อนจะค่อยๆพาความต้องการของเขาเข้าไปข้างในตัวของอีกคนช้าๆ



ลู่หานอ้าปากหอบเอาลมหายใจเข้าไป ยิ่งอี้ฟานเข้าไปลึกเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งหายใจลำบากมากแค่นั้น



“โอเคมั้ย?”



“อะ อื้อ...” ลู่หานพยักหน้าขึ้นลงรัวๆ ความต้องการของอี้ฟานที่ลู่หานสัมผัสโดยไร้สิ่งขวางกั้นเหมือนแต่ก่อนมันให้ความรู้สึกที่ดีไปอีกแบบ เหมือนว่าเราได้เป็นคนคนเดียวกันแล้วจริงๆ



พอได้จังหวะที่พอดี บทรักก็เริ่มบรรเลงขึ้น เสียงครางหอบของทั้งคู่ดังออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ อี้ฟานประคองกอดเอวอีกคนเอาไว้เพื่อช่วยอีกคนไม่ให้เสียหลักพร้อมกับแขนอีกข้างที่ปรนเปรอให้ข้างหน้าของอีกคนให้มีความสุขไปพร้อมๆกัน จนมันดำเนินมาถึงตัวโน้ตสุดท้าย ความต้องการของทั้งคู่ก็ถูกปลดปล่อยออกมาในเวลาที่ไม่ห่างกันเท่าใดนัก



อี้ฟานพักใบหน้าของตัวเองไว้ที่ไหล่ของอีกคนพร้อมกับเสียงหอบแห่งความสุข ลู่หานวางมือทับมือใหญ่ของอีกคนที่ยังกอดเอวเขาไว้อยู่ก่อนจะเอ่ยบอกให้อีกคนถอดแก่นกายออกไปจากร่างของตนได้แล้ว อี้ฟานเองก็ไม่เกี่ยงงอนแต่อย่างใด



คนตัวเล็กหันกลับมาเผชิญหน้าแล้วดึงให้อีกคนก้มลงมารับจุ๊บจากตนเอง แล้วจึงกอดอีกคนแล้วซบหน้าไว้ตรงช่วงไหล่ของอีกคนเอาไว้



“รักอี้ฟานเหมือนกันนะ รักมากๆด้วย รอจนกว่าเราจะได้กลับมาเจอกันอีกนะ” ลู่หานว่าแล้วน้ำตาเม็ดใสก็ไหลลงมา วงแขนใหญ่กอดตอบอีกคนแล้วรัดแน่นให้อีกคนแทบจะรวมร่างกับเขาเลยทีเดียว



“ชื่นใจจังได้ยินคำบอกรัก” เสียงทุ้มต่ำว่าก่อนจะจูบขมับอีกคนอย่างรักใคร่ “เดี๋ยวผมทำความสะอาดให้นะครับคนดี”



“อื้อ!” ลู่หานตอบรับด้วยรอยยิ้ม



แล้วการอาบน้ำแบบจริงๆจังก็ได้เริ่มต้นเสียที...







หลังจากที่คุณหนูลู่หานได้บอดี้การ์ดประจำตัวที่กำลังจะกลายเป็นอดีต จับอาบน้ำแต่งตัวปะแป้งเสร็จแล้วก็ถึงช่วงเวลาเข้านอนเสียที พรุ่งนี้จะได้ตื่นแต่เช้าไปขึ้นเครื่องให้ทัน



สองร่างเล็กใหญ่นอนกอดกันกลมดิก โดยที่ในอ้อมกอดอุ่นๆของอี้ฟานมีลู่หานพำนักอยู่



“ไม่อยากให้วันพรุ่งนี้มาถึงเลย” เสียงหวานพึมพำออกมา



“อย่ามัวแต่กังวลอนาคตจนลืมความสุขที่เราได้อยู่ด้วยกันในตอนนี้นะครับ กว่าจะถึงเวลานั้นเราอยู่ด้วยกันอีกตั้งหลายชั่วโมงแน่ะ จริงมั้ย?”



“จริงด้วยสินะ งั้นเราคุยกันทั้งคืนเลยมั้ยอี้ฟาน? ถ้าเรานอนเราจะมีเวลาคุยกันน้อยลงนะ”



“หึหึ ไม่ได้หรอกครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นสาย ไปขึ้นเครื่องไม่ทันพอดี”



“ก็ดีน่ะสิ นายจะได้ไม่ต้องไป”



“ถ้าอย่างนั้นคุณพ่อของหานหานคงยิงผมทิ้งน่ะครับ”



“บ้า! พ่อฉันไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้นซักหน่อย



“ครับๆ นายท่านไม่ใจร้ายหรอก ยอมยกลูกชายของท่านให้ผมตั้งวันหนึ่งแน่ะ”



“แต่พ่อฉันขี้งกเนอะว่ามั้ย แทนที่จะยกฉันให้นายไปเลย แค่ลูกคนเดียวเองจะหวงอะไรนักหนา” ลู่หานว่าหน้ายู่ยี่อย่างคนขัดใจ จนคนฟังนั้นก็ได้แต่ยิ้มเอ็นดู อดใจก้มลงไปฟัดแก้มไม่ได้ นุ่มนิ่มอย่างไรก็นุ่มนิ่มอย่างนั้นเรื่อยมา ตั้งแต่พรุ่งนี้ไปคงไม่ได้สัมผัสแก้มนิ่ม ริมฝีปากนุ่ม น้ำเสียงไพเราะ ใบหน้าหวานหยดของลู่หานแล้วสินะ



“ก็เพราะว่าลูกคนเดียวนี่แหละครับถึงได้หวงน่ะ”



“รู้งี้น่าจะยุพ่อกับแม่ให้มีน้องซะยังดีกว่า เนอะ!



“ประเทศเค้ามีนโยบายลูกคนเดียวนะครับ”



“ก็ย้ายไปอยู่ฮ่องกงก็ได้นี่ ทีนี้ก็ไม่มีปัญหา แล้วนี่นายจะมาเถียงฉันเรื่องนี้ทำไมเนี่ย? คุยกันเรื่องอื่นสิ” อี้ฟานหัวเราะออกมาเบาๆ ก็นั่นสิเนอะ เรื่องนี้มันน่าคุยก่อนจากกันที่ไหนล่ะ?



“งั้นเปลี่ยนเรื่องคุยกันเถอะ หานหานอยากคุยเรื่องอะไร?”



“ไม่มีอะไรอยากคุย มีแต่อยากสั่ง นายอย่าแอบมีกิ๊กนะ ไปอยู่ที่นู่นก็ดูแลตัวเองด้วยล่ะ แม้ว่าพ่อจะไม่ให้เราติดต่อกัน แต่ฉันจะหาทางติดต่อนายเอง ส่วนนายก็อย่าลืมหาทางด้วยนะ”



“รับทราบครับผม!”



“ดีมาก เดี๋ยวให้รางวัล”



จุ๊บ!



ลู่หานยิ้มหวานในความมืด แต่อี้ฟานเห็นมันชัดเจน your smile is my sunshine น่ะ เคยได้ยินหรือเปล่า?



“คืนนี้อย่าปล่อยฉันนะ นอนกอดฉันอย่างนี้จนกว่าจะเช้าเลย เข้าใจมั้ย? ตอนนี้ฉันง่วงแล้ว ไว้ไปคุยกันในฝันนะ ราตรีสวัสดิ์ที่รัก”



จุ๊บ!



กู๊ดไนต์คิสจากลู่หาน



“ฝันดีครับที่รัก” อี้ฟานเอ่ยตอบแล้วกระชับกอดอีกคนให้แน่นขึ้นไปอีก



อยากจะหยุดเวลาจริงๆ...














ช่วงเวาแห่งการลาจากไม่มีใครอยากให้เกิดหรอก ไม่ว่าจะจากชั่วคราวหรือจากถาวร



ลู่หานร้องไห้หนักขึ้นเมื่อใกล้เวลาที่อี้ฟานจะต้องเขาเกต แม้ว่าตรงนี้จะมีพ่อและลูกน้องคนอื่นๆแต่เขาก็ไม่แคร์เท่าไหร่นัก เขาแค่อยากอยู่กับอี้ฟานให้นานกว่าเดิมก็เท่านั้น



“คุณหนูครับ ผมต้องไปแล้ว...” อี้ฟานเอ่ยบอกเมื่ออีกคนไม่ยอมปล่อยให้เขาไปเสียที ลู่หานไม่ได้กอดเขาเอาไว้หรอก แต่ลู่หานร้องไห้ออกมาแทน



“...เวลายังไม่ถึงเลย อยู่ด้วยกันต่ออีกนิดสิ”



“ผมต้องไปต่อแถวผ่านซิเคียวริตี้ ไหนจะต้องเดินหาเกตอีก เดี๋ยวผมก็ตกเครื่องกันพอดีสิครับ”



“ก็ดี จะได้ไม่ต้องไป อยู่กับฉันที่นี่ไง” ลู่หานยังไม่ยอมหยุดร้อง จนคนเป็นพ่อที่เห็นต้องกระแอมไอออกมา เขาไม่พอใจนักหรอกที่บอดี้การ์ดที่เขาจ้างมารักษาความปลอดภัยให้ลูกชายของเขานั้นจะแอบมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับลูกชายของเขาน่ะ ถ้าหากว่าเขาไม่จับได้แบบคาหนังคาเขาที่ทำเขาช็อกยิ่งกว่ารู้ว่าหุ้นบริษัทที่เขาซื้อนั้นตกจนขาดทุนไปหลายล้าน ในวันที่รู้เรื่องแทบอยากจะสั่งลูกน้องให้ยิงอี้ฟานทิ้งเสียด้วยซ้ำ



“ลู่หาน...” ชายแก่มีอายุเอ่ยเรียกชื่อลูกชายตัวเองอย่างมีอำนาจ อี้ฟานเหลือบไปมองหน้านายท่านที่เขาเคารพก่อนจะหันไปบอกลากับลู่หานอีกครั้ง



“ผมต้องไปแล้วนะครับคุณหนู ดูแลตัวเองด้วยนะครับ” ลู่หานร้องไห้หนักกว่าเดิมอีกเมื่อร่างสูงจับกระเป๋าแล้วทำท่าจะเดินไป จนคนเป็นพ่อต้องเดินเข้าไปใกล้ “ผมไปแล้วนะครับนายท่าน ขอบคุณที่ท่านเมตตามาส่งผมในวันนี้ด้วย ขอบคุณมากนะครับ” อี้ฟานเอ่ยบอกก่อนจะโค้งเก้าสิบองศาให้นายจ้างของตัวเอง ชายแก่แค่พยักหน้ารับ คนตัวสูงเลยตัดสินใจจะไปเสียที



“อี้ฟาน...ฮืก...” ลู่หานเอ่ยเรียกชื่อเขาเบาๆพร้อมกับมองใบหน้าหล่อเป็นครั้งสุดท้าย เขาจะไม่มีทางได้เห็นอี้ฟานอยู่ใกล้ๆเขาอีกแล้ว



ชายหนุ่มยืนช่างใจสักพักก่อนจะตัดสินใจเดินกลับมาหาลู่หานอีกครั้ง อี้ฟานโค้งตัวเก้าสิบองศาให้นายท่านของเขาอีกครั้ง



“ผมขออนุญาตกอดคุณหนูเป็นครั้งสุดท้ายนะครับ” ไม่รอให้เจ้านายอนุญาต อี้ฟานก็ดึงร่างบอบบางอีกคนเข้ามากอดทันที ลู่หานก็เลยปี่แตกอีกครั้ง



“ฮีก...ฮือ อี้ฟานนนนนนนนนน”



“ดูแลตัวเองนะหานหาน ผมรักหานหานมากนะครับ” พูดจบก็จูบลงที่กลีบปากอิ่มของลู่หานที่ตั้งใจจะจูบตอบอยู่แล้ว นายท่านที่เคารพก็ไม่ได้สนใจเลยในเมื่อเขาขออนุญาตแค่กอดลาคุณหนูเพียงเท่านั้น เรื่องจูบนั้นเขาอดไม่ไหวจริงๆ



“ฮึก...ฉันก็รักนายนะ ไว้เจอกันนะ” ลู่หานเอ่ยบอกน้ำตานองหน้า เห็นแล้วร่างสูงก็อดไม่ได้ที่จะเช็ดน้ำตาให้



“ไปเสียที เดี๋ยวตกเครื่อง” เสียงทุ้มต่ำดุๆที่เป็นเอกลักษณ์ของพ่อลู่หานทำให้อี้ฟานรู้สึกตัว เขาหันกลับมาที่นายท่านอีกครั้ง แล้วโค้งเคารพเป็นครั้งสุดท้าย



“ขอโทษที่ล่วงเกินคุณหนูนะครับ และผมขอขอบคุณนายท่านจริงๆที่เมตตาผมอยู่ ขอบคุณนะครับ” ว่าจบก็จับกระเป๋าแล้วมองหน้าลู่หานครั้งสุดท้าย แล้วกลับหันหลังเดินไปเสียที



ลู่หานก็เอาแต่ร้องไห้เหมือนเด็กที่เสียของเล่น คนเป็นพ่อจึงต้องโอบไหล่แล้วสั่งให้ไปขึ้นรถกลับบ้านเสียที



ภายในรถคันหรูที่มีเพียงความเงียบและอาการซึมลงอย่างเห็นได้ชัดของลู่หานทำให้คนเป็นพ่อต้องถอนหายใจออกมา



“ปิดเทอมหน้าร้อน พ่อจะให้เราไปแคนาดาสองอาทิตย์ แล้วถ้าเกรดออกมาดีแล้วยังสอบติดคณะที่ลูกอยากเรียนในอันดับต้นๆ พ่อจะให้อี้ฟานกลับมา” ลู่หานที่ได้ยินก็หันไปมองหน้าพ่อของตนเองเต็มตาครั้งแรก เพราะตั้งแต่โดนจับได้มาแอบคบกับอี้ฟานเขาก็ไม่อยากจะมองหน้าพ่อของตัวเองอีกเลย



“เมื่อกี้พ่อว่าไงนะครับ?”



“ลูกได้ยินยังไงพ่อก็พูดอย่างนั้นแหละ” ลู่หานยิ้มกว้างออกมาทันที งั้นแสดงว่าพ่อของเขาคงจะยอมรับอี้ฟานแล้วล่ะสิ



“พ่อพูดจริงนะ?” ลู่หานเกาะแขนพ่อของตัวเองแล้วเอ่ยถามด้วยสายตาที่เป็นประกาย



“อือ”



“เย้! ขอบคุณนะครับพ่อ พ่อใจดีที่สุดเลย สัญญาเลยว่าผมจะตั้งใจเรียนและตั้งใจสอบ ขอบคุณนะครับ” ลู่หานเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงสดใสผิดกับเมื่อครู่ชัดเจน



ก็คนเป็นพ่อเป็นแม่ที่ไหน จะอยากเห็นลูกตัวเองเศร้ากันล่ะ จริงมั้ย?










FIN.












ประเดิมบล็อกนี้ด้วยเอ็นซีเบาๆ ไม่ได้เกลาด้วย แต่งเสร็จก็ง่วงมากแล้ว 55555 อัพเลยล่ะกัน ใจร้อน ฮี่ๆๆๆ
ใครแวะเข้ามาก็คอมเมนต์ได้นะคะ ^^
แวะมาพูดคุยกันได้นะคะ เหงาค่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆ